กลยุทธ์การซื้อขายอุปทานและอุปสงค์สำหรับ Forex หุ้นและตลาดใด ๆ เรียนรู้เพื่อสร้างความคิดของนักลงทุนมืออาชีพเพื่อให้ได้ผลตอบแทน 5-10 ต่อเดือนกฎระเบียบที่เข้มงวดและเป็นระเบียบตามกลยุทธ์อุปทานและอุปสงค์ใช้เวลาเพียง 30-45 นาทีต่อวันในการวิเคราะห์ของคุณเท่านั้น อยู่มาวันหนึ่งเทียนหนึ่งคนไม่มีตัวชี้วัดที่ปกคลุมด้วยวัตถุฉนวน ไม่มีข่าวไม่มีข่าวประชาสัมพันธ์ วิธีการที่ง่ายสำหรับผู้ที่ทำงานเต็มเวลาก่อนที่ธุรกิจการค้าที่มีศักยภาพจะโพสต์ทุกวันในชุมชนการค้า Works on a market and timeframe: Forex, หุ้น, ETFs, Futures, Indexes และ Commodities พร้อมสำหรับการเริ่มต้นดาวน์โหลดหลักสูตร PDF ฟรีเรียนรู้วิธีการทำงานของตลาดไม่มีตัวบ่งชี้ที่มีสีสันหรือปกคลุมด้วยวัตถุฉนวน ไม่มีเสียง ไม่มีข่าวหรือประกาศกำไร ความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานเป็นเหตุผลเดียวที่ราคาจะย้ายไปทุกตลาดไม่ว่าจะเป็น Forex, หุ้น, Futures หรือ Commodities ยิ่งความไม่สมดุลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงราคามากขึ้นเท่านั้น ผู้ค้าส่วนใหญ่ไม่ตระหนักถึงพลังที่สามารถจัดหากลยุทธ์การซื้อขายแบบอุปสงค์และอุปทานได้ ดีจริงๆใช้ตรรกะนี้เมื่อเราต้องการที่จะซื้ออาหารบางอย่างที่ซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อขวดไวน์หรือรถ เราต้องการที่จะซื้อต่ำและขายสูง thats ที่เห็นได้ชัดสวยไม่ได้คุณจะซื้อไวน์ที่คุณชื่นชอบไวน์มูลค่า 5 สำหรับ 15 แน่นอนคุณจะไม่ ทำไมผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่จึงซื้อคู่สกุลเงิน Forex หรือหุ้นเมื่อราคาสูงเกินไปถามตัวเองว่า ไม่มีการล้างสมองมากขึ้นเพื่อพยายามชักชวนให้คุณรู้ว่าการซื้อขายเป็นเรื่องง่ายเพราะไม่ได้เป็นเช่นนั้น เรียนรู้วิธีเพิ่มบัญชีของคุณอย่างสม่ำเสมอ 5-10 เดือน ผลตอบแทน 5-10 ต่อเดือนเพียงพอสำหรับคุณสำหรับเราและนักลงทุนมืออาชีพทั้งหมด ถามตัวเองว่าทำไมมันไม่เพียงพอสำหรับคุณ ผู้ค้าขายส่วนใหญ่จะพยายามขายหลักสูตรที่ไม่มีราคาให้คุณเป็นเวลาไม่กี่ร้อยเหรียญและเป็นกลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินและหุ้นที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มทุนสองเท่าหรือสามเท่าในช่วงเวลาสั้น ๆ พวกเขาจะบอกคุณว่าการเรียนรู้เพื่อการค้า Forex หรือหุ้นเป็นเรื่องง่ายมากพวกเขาจะแสดงบันทึกการติดตามที่ไม่คุ้มค่ากระดาษพวกเขาจะเขียนบนพวกเขาจะสัญญาคุณยกเลิกบอกร่ำรวย Trader Supply อุปสงค์ Zones บทความนี้เขียนด้วย เจตนาที่จะอธิบายอุปทานพื้นฐานและความต้องการเศรษฐศาสตร์และวิธีการค้าปลีกรายย่อยจะได้ประโยชน์จากความรู้นี้ ผู้ค้า Forex ส่วนใหญ่ค้าปลีกไม่ได้เป็นเงินทุนและมีความรู้ จำกัด เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและการดำเนินงานของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างไร ช่วงต้นปีการค้าฉันเข้าสู่โลกของการซื้อขายแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสี่ปีที่ผ่านมาและฉันมาจากพื้นหลังการจัดการ เมื่อฉันเริ่มต้นซื้อขายฉันไม่ได้มีเงื่อนงำใด ๆ เกี่ยวกับตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ฉันเคยไปที่ฟอรัมการซื้อขายและเว็บไซต์ข่าวการเงินต่างๆเพื่อค้นหาระบบที่มีกำไรซึ่งฉันเห็นคำอธิบายเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวด้านราคาที่ต่างกัน เว็บไซต์ข่าวการเงินบางแห่งอาจกล่าวได้ว่าเหตุผลที่เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรเนื่องจากมีค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 50 แห่งในขณะที่ฟอรัมอื่น ๆ ระบุว่าราคาดังกล่าวลดลงเนื่องจากมียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 100 วันผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอื่น ๆ จะยืนยันว่าราคาตกต่ำทำให้เกิดความเสียหาย บรรทัดแนวโน้มลดลงและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจะบอกว่าราคาลดลงทำให้มันถึงระดับความต้านทาน ในฐานะที่เป็นพ่อค้ามือใหม่ฉันเคยเกาศีรษะเพราะคำอธิบายที่ต่างออกไปนี้เป็นเรื่องที่ฉันเข้าใจมากและยากที่จะติดตามเรื่องนี้ เป็นผลให้ฉันใช้ในการกรอกแผนภูมิของฉันกับตันของตัวบ่งชี้ที่บางครั้งก็ยากที่จะได้เห็นเทียนราคา ฉันรู้ว่าต้องมีคำอธิบายเหตุผลสำหรับการเคลื่อนไหวด้านราคาทั้งหมดนี้ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะขุดลึกและทำวิจัยบางส่วนและหาแนวคิดหนึ่งที่เหนือสิ่งอื่นใดคือสิ่งที่ขับเคลื่อนตลาดและจะปรากฏในแผนภูมิของเรา มันไม่ได้ใช้เวลานานที่ฉันจะตระหนักว่าการเคลื่อนไหวของราคาทั้งหมดเหล่านี้ฉันเห็นในแผนภูมิสกุลเงินเป็นผลมาจากความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทาน หากราคาสูงขึ้นหมายความว่าผู้ซื้อมีความตั้งใจมากขึ้นสำหรับสกุลเงินนั้น ณ จุดนั้นและหากมีการเคลื่อนตัวลงหมายความว่ามีผู้ขายที่เต็มใจขายสกุลเงินนั้นมากขึ้น ราคาเพียงแค่ย้ายจากโซนหนึ่งไปอีกโซนหนึ่งเพื่อเติมคำสั่งซื้อเหล่านี้ ข้อมูลที่ฉันนำเสนอในบทความเกี่ยวกับอุปสงค์อุปทานอุปทานนี้ได้รับการเรียนรู้และได้มาจากหลายแหล่งและฉันจะพยายามให้ระดับของฉันดีที่สุดเพื่ออธิบายในแบบฟอร์มที่ง่ายที่สุด คนบางคนอาจไม่เห็นด้วยกับมุมมองของฉัน แต่ฉันเชื่อเสมอว่าคนสองคนอาจเห็นสิ่งที่คล้ายกันและมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นให้เริ่มต้น: คำจำกัดความ Q. ความหมายของ Supply A. Supply คือปริมาณสินค้าที่ผู้ซื้อสามารถซื้อได้ในราคาที่กำหนด ถามความหมายของอุปสงค์คืออะไรความต้องการคือปริมาณของสินค้าที่ผู้ซื้อต้องการด้วยราคาที่กำหนด Q. ความไม่สมดุลของอุปทานอุปทานความต้องการ A. (I) หากอุปทานที่มีอยู่ของรายการเกินความต้องการนั้นราคามีแนวโน้มลดลง (II) หากความต้องการสินค้าบางอย่างเกินกว่าปริมาณที่มีจำหน่ายแล้วราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น Q. ความสมดุลของราคาคืออะไร A. ราคาตลาดที่อุปทานของสินค้าเท่ากับปริมาณที่ต้องการ จากคำจำกัดความข้างต้นตอนนี้เราเข้าใจอุปทานอุปสงค์อุปสงค์อุปทานและความสมดุลของราคาที่ไม่สมดุล ตอนนี้ให้ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยตัวอย่างบางส่วน ตัวอย่าง - การจัดหาเกินความต้องการจากคำอธิบายข้างต้นตอนนี้เราทราบว่าอุปทานและอุปสงค์เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของราคา ตอนนี้ให้มองไปในบริบทที่เรียบง่ายเพื่อทำความเข้าใจว่าอุปทานมีมากกว่าความต้องการอย่างไร ให้ถือว่าฤดูหนาวและลูกค้าไปที่ร้านค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์เพื่อซื้ออะไร ขณะที่เขาเข้าร้านเขาเห็นกระดานป้ายราคา 50 เครื่องปรับอากาศ แต่แทบจะไม่เห็นใครสนใจซื้อ แต่ราคาต่ำ สิ่งที่อาจเป็นสาเหตุของมัน เหตุผลที่เรียบง่ายและตรรกะคือตั้งแต่ฤดูหนาวและสภาพอากาศหนาวเย็นรายการนี้ไม่ต้องการโดยผู้ซื้อทำให้ไม่มีประโยชน์กับพวกเขาในขณะนี้ แต่เนื่องจากร้านค้าทราบว่ามีการขาดความต้องการสำหรับรายการนี้พวกเขา จะเสนอราคาลดเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ นี่คือตัวอย่างคลาสสิกของอุปทานที่เกินความต้องการ ได้แก่ ในช่วงฤดูหนาวมีความต้องการเครื่องปรับอากาศลดลง แต่มีการจัดหาสินค้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการนำเสนอในราคาพิเศษ ตัวอย่าง - ความต้องการอุปทานเกินตอนนี้ให้ดูที่สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันเพื่อทำความเข้าใจว่าอุปสงค์มีมากกว่าอุปทานอย่างไร ฤดูหนาวและลูกค้าไปที่ร้านค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์เพื่อซื้อเครื่องทำความร้อน แต่มันก็หมดสต็อกดังนั้นเขาจึงไปที่ร้านอื่นหวังว่าเขาจะได้รับมันมี แต่น่าเสียดายที่พวกเขายังมีสต็อก หลังจากนั้นเขาไปที่ร้านค้าที่สามและในที่สุดเขาก็เห็นเครื่องทำความร้อนที่มีอยู่ที่ร้าน แต่ปัญหาคือมีลูกค้าจำนวนมากอยู่แล้วในสายที่จะซื้อมัน นอกจากนี้ยังไม่มีส่วนลดสำหรับเครื่องทำความร้อนในความเป็นจริงราคาจะสูงกว่าปกติ แต่ลูกค้าจำนวนมากยังคงซื้อ นี่คือตัวอย่างคลาสสิกของความต้องการที่เกินกว่าอุปทานเช่น มีความต้องการมากขึ้นสำหรับเครื่องทำความร้อนเป็นฤดูหนาว แต่อุปทานที่มีอยู่ จำกัด เนื่องจากร้านค้าจำนวนมากหมดสต็อกเก็บเฉพาะนี้ที่มีเครื่องทำความร้อนขึ้นราคาเนื่องจากความต้องการมากเกินไป ต่อไปนี้เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลของราคา ฤดูหนาวและลูกค้าไปที่ร้านค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์เพื่อซื้อเครื่องทำความร้อนที่นั่นเขาเห็นเครื่องทำความร้อนมากพอที่ร้านและบางคนจะซื้อมัน ร้านค้าไม่ได้เสนอส่วนลดใด ๆ หรือราคาสูงกว่าปกติ เนื่องจากมีปริมาณเพียงพอสำหรับรายการนี้และมีลูกค้าสั่งซื้อจำนวน จำกัด ลูกค้าจึงตัดสินใจที่จะตรวจสอบร้านอื่นเพื่อดูว่าจะได้ราคาดีกว่าหรือไม่ เขารู้ดีว่ารายการนี้จะไม่หมดไปในขณะนี้ดังนั้นเขาจึงไปที่ร้านอื่นและสังเกตเห็นสถานการณ์เดียวกันกับร้านหนึ่ง นี่คือตัวอย่างคลาสสิกของความสมดุลของราคา ได้แก่ อุปทานของเครื่องทำความร้อนตามความต้องการของลูกค้าร้านค้าปลีกโดยเฉลี่ยเท่ากับเป็นราคาดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่ส่วนลดหรือสูงกว่าปกติ วิธีการระบุระดับอุปสงค์ของอุปทานในแผนภูมิ Forex ขณะนี้เรามีความเข้าใจในความสมดุลของราคาและความไม่สมดุลของอุปสงค์ของอุปทาน เราจะไปขั้นตอนต่อไปและดูว่าเราจะได้รับประโยชน์จากความรู้นี้ในตลาด forex อย่างไร ในตลาดใด ๆ วัตถุประสงค์ของนักลงทุนนักเก็งกำไรพ่อค้าคือการซื้อสินค้าหรือเครื่องดนตรีที่มีส่วนลด (ราคาขายส่ง) และขายในราคาขายปลีกตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไม่แตกต่างกัน เราเป็นผู้ค้าปลีกไม่สามารถดูใบสั่งซื้อที่เกิดขึ้นจริงในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน แต่เราสามารถใช้ความรู้ของเราเกี่ยวกับความต้องการของแอมป์อุปทานเพื่อระบุระดับความน่าสนใจในระดับต่อไปของเราซึ่งเราเชื่อว่าเงินที่สมาร์ท มีแนวโน้มที่จะสั่งซื้อของพวกเขา พื้นที่ที่น่าสนใจหลักของเราคือราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นจากโซนใดโดยเฉพาะและเกิดความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย อาจเป็นชุดเทียนหรือเทียนหนึ่งชิ้น แต่ควรแสดงจุดตัดสินใจที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายทั้งสองรายคิดค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน เมื่อระบุโซนแล้วงานของเราจะต้องรอจนกว่าราคาจะเข้าสู่โซนอีกครั้ง เราสามารถสั่งซื้อแบบ จำกัด หรือดูราคาเพื่อเข้าสู่การค้าในเขตดังกล่าว เช่นเดียวกับระบบหรือกลยุทธ์ใด ๆ เราไม่สามารถแน่ใจได้ 100 ว่าราคาจะเคารพโซนดังกล่าวอีกครั้ง แต่มีความเป็นไปได้สูงกว่าที่ราคาจะตอบสนองที่โซนนั้นโดยพิจารณาจากราคาทางที่เหลือในระดับนั้นเป็นครั้งแรกขอแนะนำให้ผู้ซื้อพิจารณา มันเป็นเขตสำคัญ ให้ดูที่ตัวอย่างแผนภูมิที่แนบมาซึ่งเป็นตัวอธิบาย: โครงสร้างราคามี 4 โครงสร้างทั่วไปที่ใช้ในการระบุระดับความต้องการของอุปทานในแผนภูมิอัตราแลกเปลี่ยน: 1) Drop-Base - Rally 2) Rally-Base-Drop 3) Rally - Base-Rally 4) Drop-Base-Drop ฉันเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าเมื่อผู้ค้าเข้าใจอุปสงค์อุปทานและการซื้อขายด้วยความอดทนวินัยและการบริหารความเสี่ยงที่ถูกต้อง heshe จะประสบความสำเร็จในการซื้อขาย นี่คือบางส่วนของคำคมที่ฉันชื่นชอบจากผู้ค้าที่ประสบความสำเร็จ: อย่าคิดว่าตลาดจะทำอะไรคุณก็ไม่มีทางควบคุมได้เลย คิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะทำถ้าได้รับมี ทั้งหมดที่เราสามารถทำได้ดีที่สุดคือมองหาเหตุผลทางประวัติศาสตร์และนำไปใช้กับระดับหรือราคาสำหรับการเคลื่อนไหวในอนาคตที่เป็นไปได้ การซื้อขายไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์หรือศิลปะมันเป็นภาพสะท้อนของสิ่งที่มนุษย์ให้ค่าในตราสารการเงินเฉพาะในเวลาที่กำหนด ถ้าคุณต้องเล่นตัดสินใจเกี่ยวกับสามสิ่งที่เริ่มต้น: กฎของเกมเดิมพันและเลิกใช้การสนับสนุนและความต้านทานต่อการค้าอุปทานและอุปสงค์ในบทความของเรากองกำลังอุปทานและอุปสงค์ เราเห็นสิ่งที่ผลกระทบขนาดใหญ่กองกำลังเหล่านี้สามารถมีราคาในตลาด Forex นี้เป็นความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและที่สำคัญมันอาจจะยากที่จะเข้าใจว่า lsquohowrsquo นี้เกิดขึ้น นี่คือที่สนับสนุนและความต้านทานสามารถเข้ามาเล่นช่วยให้ผู้ค้าระบุระดับที่อุปสงค์และอุปทานในคู่สกุลเงินที่กำหนดอาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อข้ามเส้นดังกล่าว บทความนี้จะเจาะลึกลงไปในสมมติฐานนี้และดูเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ค้าสามารถเริ่มใช้อุปสงค์และอุปทานเพื่อประโยชน์ของตนได้ ปริมาณอุปทานและอุปทานคือปริมาณที่มีอยู่ในราคาที่กำหนดในขณะที่ความต้องการเป็นจำนวนเงินที่ต้องการหรือต้องการในราคาที่ระบุ ดังที่เราเห็นใน The Forces of Supply and Demand ราคาของผลิตภัณฑ์ (หรือเครื่องมือ) อาจมีผลกระทบอย่างมากกับปริมาณที่เรียกร้องจากตลาดหรือปริมาณของอุปทานที่อาจมี เมื่อราคาเพิ่มขึ้น sellerrsquos ความเต็มใจที่จะกำจัดผลิตภัณฑ์ของตนก็จะเพิ่มขึ้น นี่เรียกว่าเส้นอุปทาน (Supply curve) และแสดงให้เห็นว่ามีหน่วยใดเพิ่มเติม (บนแกนตั้ง) เนื่องจากราคาเพิ่มขึ้น (แกนนอน) และในอีกด้านหนึ่งของสมการนั้นผู้ซื้อจะต้องการมากขึ้นในราคาที่ต่ำกว่าเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาโดยทั่วไปเราจะเห็นว่าความต้องการลดลงตามที่แสดงไว้ด้านล่างในเส้นอุปสงค์ทั่วไป อีกครั้งหนึ่งของหน่วยอยู่บนแกนแนวตั้งโดยมีราคาอยู่ที่แกนแนวนอน: อุปทานและอุปสงค์ในโลกแห่งความจริง Letrsquos จินตนาการสักครู่หนึ่งว่าคุณได้รับมอบหมายให้ทำงานในการซื้อของชำสำหรับครอบครัวของคุณ และเป็นครอบครัวส่วนใหญ่รายการบนบรรทัดในรายการร้านขายของชำที่เป็นสเต็กสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ย่าง คุณไปที่ตลาดในวันหนึ่งและสังเกตเห็นว่าราคาสเต็กได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อตอนนี้ Itrsquos ต้องเสียค่าใช้จ่ายถึงสองเท่าในการติดตามกิจกรรมปิ้งย่างสุดสัปดาห์ของคุณและคุณจะเริ่มคิดถึงสเต็คที่มีคุณค่า คุณเริ่มมองหาทางเลือกเช่นแฮมเบอร์เกอร์หรือผลิตภัณฑ์ทดแทนไก่ซึ่งคุณสามารถได้รับค่าที่คล้ายกันแม้ว่าค่าใช้จ่ายที่สะดวกสบายมากขึ้น ในขณะที่คุณเป็นรายบุคคลอาจตัดสินใจจ่ายราคาสเต็กเท่าตัวเราต้องคิดถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดในที่ทำงาน ผู้ซื้อสเต็กทุกรายไม่สนใจที่จะทำเช่นนี้และหลายคนก็จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทน นี่เป็นตัวอย่างของเส้นอุปสงค์ ราคาเพิ่มขึ้นความต้องการลดลง แต่ letrsquos บอกว่าในสัปดาห์หน้าคุณไปที่ร้านขายของชำคุณสังเกตเห็นปรากฏการณ์ที่แตกต่างกัน ตอนนี้แทนที่จะเป็นสเต็กสองครั้งที่คุณใช้ในการจ่ายเงินครึ่งหนึ่งของสิ่งที่คุณเคยจ่ายหรือ 75 จากราคาที่ผ่านมา weekrsquos ตอนนี้คุณเริ่มคิดไปในทิศทางที่ต่างจากที่คุณเคยทำมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณเริ่มคิดว่าการมีสเต็กในช่วงสัปดาห์ที่ด้านบนสุดของเทศกาลวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณสามารถนำความเพลิดเพลินเพิ่มเติมบางอย่างให้กับคุณและครอบครัวของคุณมีชีวิตอยู่ คุณจำได้ว่าภรรยาของคุณชอบสลัดสเต็กครั้งสุดท้ายที่คุณพาครอบครัวออกไปรับประทานอาหารค่ำและคุณตัดสินใจที่จะโหลดขึ้นในขณะที่ราคาถูก แต่ในขณะที่คุณกำลังชื่นชมความมหัศจรรย์ของสเต็กในร้านขายของชำคุณเป็นพยานว่าผู้คนวิ่งด้วยตะกร้าสเต็กเต็มรูปแบบ ลูกค้ากำลังโหลดขึ้นในขณะที่ราคาถูกและคุณรู้ว่าถ้าคุณ donrsquot ดำเนินการอย่างรวดเร็วทั้งหมดของเนื้อลดจะหายไปก่อนที่คุณจะรู้ว่านี่คืออีกครั้งความต้องการในที่ทำงาน และเมื่อราคาปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วความต้องการเพิ่มขึ้นไม่เพียง แต่สำหรับคุณ แต่ตลาดโดยทั่วไป อุปทานและอุปสงค์ที่เล่นผ่านการสนับสนุนและความต้านทานตัวอย่างของสเต็กที่ลดราคาแตกต่างจากที่เราเห็นในแผนภูมิสกุลเงิน ใช้สายเคเบิลเช่น rsquo (GBPUSD) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2553 เป็นต้นไปเราไม่เห็นราคาที่ต่ำกว่า 1.5230 มีหลายกรณีที่ราคาได้เข้าใกล้ระดับนี้แล้ว แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการหักบัญชีในสายนี้ แผนภูมิที่สร้างขึ้นโดย James Stanley ดังที่คุณทราบข้างต้นมีการทดสอบ GBPUSD น้อยกว่า 1.55 ตั้งแต่เดือนสิงหาคมของปี 2010 แต่ในขณะที่ยังไม่มีการหยุดพักที่ต่ำกว่า 5230 การทดสอบเหล่านี้หลายครั้งพร้อมกับ ในราคาที่ในที่สุดนำไปสู่พื้นที่ 1.60 ในแผนภูมิ การดูราคาต่ำกว่า 1.55 เมื่อเทียบกับ GBPUSD ก็คล้ายกับการได้เห็นสเต็กที่ขายที่ร้านขายของชำในราคา 75 เยน ในระดับราคานี้ผู้ซื้อได้แสดงความเต็มใจที่จะกระโดดขึ้นเนื่องจากราคาดูเหมือนจะต่ำมากสำหรับพวกเขาที่จะพูดว่า lsquono. rsquo การสนับสนุนคือจุดที่ความต้องการเริ่มทะลุถึงอุปทานส่งราคาสูงกว่า การปรับเปลี่ยนอุปทานและความต้องการเส้นโค้งทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับการกล่าวถึงมาจนถึงปัจจุบันได้รับภายใต้สมมติฐานว่าสภาพแวดล้อมอยู่ใกล้เคียงกัน และมันจะมหัศจรรย์ถ้าเป็นเช่นนี้ แต่โชคร้ายที่เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและแน่นอนราคาทำ Letrsquos จินตนาการสักครู่ว่ามีการระบาดของโรควัวบ้าในรัฐของคุณ ตอนนี้การซื้อเนื้อวัวมีความเสี่ยงมากขึ้น เป็นเรื่องจริงเมื่อคุณไปที่ร้านขายของชำคุณสังเกตเห็นว่าสเต็กได้รับการทำเครื่องหมายลง 75 และดึงความสนใจของไม่มีใครในตลาด เหตุการณ์พื้นฐานได้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาด การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยหรือข้อมูลที่ไม่ดีจริงๆพิมพ์ระหว่าง NFP ที่สร้างคลื่นกระแทกทั่วทั้งตลาดโลก ร้านขายของชำสามารถลดราคาสเต็กได้ต่อไปจนในที่สุดผู้ซื้อบางรายรู้สึกว่าความเสี่ยงในการทำสัญญากับวัวบ้าน่าจะลดราคาที่พวกเขาจะได้รับเมื่อซื้อสเต็ก และเหมือนกับสิวมากที่สุด การคาดการณ์สิ่งเร้าที่อาจทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ได้ อุปทานการค้าและความต้องการสิ่งแรกที่ผู้ค้าต้องทำก่อนที่จะวางการค้าขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานคือการตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการที่จะคาดหวังว่าสภาพแวดล้อมจะยังคงเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นี่คือการแบ่งแยกระหว่างการตัดสินใจซื้อขายในช่วงหรือการค้าสำหรับการฝ่าวงล้อม เทรดดิ้งดัลลัสเมื่อเทรดดิ้งอยู่ในช่วงที่ผู้ค้าคาดการณ์ว่าสภาพแวดล้อมจะยังคงเหมือนเดิมโดยมีการสนับสนุนหรือความต้านทานที่ยืนอยู่บนพื้นดินเพื่อให้ผู้ค้าสามารถรับสินค้าได้ในปริมาณที่ต่ำและสูงมากเราได้พูดถึงแนวคิดนี้อย่างกว้างขวางในบทความ How to Anallyze และขอบเขตการค้าที่มีการดำเนินการด้านราคา ภาพด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็นว่านักลงทุนสามารถใช้ราคาเพียงอย่างเดียวในการระบุจุดเหล่านั้นในตลาดที่ความต้องการเริ่มเอาชนะอุปทาน (สร้างราคาที่เพิ่มขึ้น) หรืออุปทานเริ่มที่จะบุ้ข่ายความต้องการ (สร้างราคาที่ลดลง) แผนภูมิที่สร้างขึ้นโดย James Stanley การเทรดดิ้งฝ่าวงล้อมด้านอื่น ๆ ของเหรียญเป็นพ่อค้าที่คาดว่าสภาพแวดล้อมการเปลี่ยนแปลงที่มีการแบ่งการสนับสนุนหรือความต้านทานที่จะสร้างความคิดฟุ้งซ่านใหม่หรือต่ำใหม่ ด้วยลักษณะนี้วัตถุประสงค์ของ traderrsquos เปลี่ยนจากเงื่อนไขที่ จำกัด ขอบเขต ตอนนี้เป้าหมายอยู่ในระดับสูงและขายกลับในราคาที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาต่ำและซื้อกลับมาให้ราคาที่ต่ำกว่าในบทความ Ballistics of Breakouts เรานำเสนอการเดินเชิงลึกเพื่อหาวิธีที่จะสามารถทำได้ ภาพประกอบด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็นว่าพ่อค้าสามารถวางแผนการค้าขายได้อย่างไร: แผนภูมิที่สร้างขึ้นโดย James Stanley เนื่องจากสภาพแวดล้อมเหล่านี้อาจมีความวุ่นวายมากกว่าที่คาดไว้ในตลาด lsquorangingrsquo พ่อค้ามักได้รับการบริการที่ดีที่สุดโดยการแก้ไขการจัดการเงินของตนเพื่อพิจารณา เพิ่มความเสี่ยงในการซื้อขายในตลาดที่รวดเร็ว --- เขียนโดย James B. Stanley คุณสามารถทำตาม James on Twitter JStanleyFX หากต้องการเข้าร่วมรายการแจกจ่าย James Stanleyrsquos โปรดคลิกที่นี่
No comments:
Post a Comment